สร้างแผนพัฒนาอาชีพจาก Career Checkup

Published on
Written by

เพื่อความก้าวหน้าทางอาชีพ  เราแนะนำให้คุณลองย้อนกลับมาดูสิ่งที่ตนได้ทำเพื่อตรวจสุขภาพทางอาชีพ (Career Checkup) ด้วยแบบประเมินตนเอง เครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณประเมินความก้าวหน้าและความสำเร็จที่คุณทำมาตลอดทั้งปี ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้ว

ปี 2020 เป็นหนึ่งในปีที่มีความท้าทายมากที่สุด ทำให้หลายคนจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงในที่ทำงาน ปรับตัวกับความเครียดและความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจด้วย การพิจารณาดูว่าตอนนี้คุณอยู่ส่วนไหนในสายอาชีพที่คุณทำงานอยู่ และระบุขอบเขตสำหรับการพัฒนาตนเอง โดยตั้งเป้าหมายใหม่ ๆ และเฉลิมฉลองกับความสำเร็จของตนเอง สิ่งนี้จะช่วยให้คุณได้มุมมองที่คุณต้องการ ทำให้คุณมั่นใจว่าคุณอยู่บนเส้นทางที่ใช่และมีข้อมูลที่คุณต้องการสำหรับก้าวต่อไปของคุณในปีใหม่

การทำ Career Checkup ควรจะวัดอะไรบ้าง

1. อุตสาหกรรมและนายจ้างของคุณ 

ก่อนที่คุณจะมองไปที่ทักษะและความสามารถของตนเอง มันสำคัญที่จะต้องมองไปที่อุตสาหกรรมที่คุณทำงานอยู่  การค้นคว้าเล็กน้อยจะบอกคุณได้ว่า  อุตสาหกรรมที่คุณอยู่มันมีศักยภาพเพียงใด เฉกเช่นเดียวกับสุขภาพทางอาชีพของคุณที่คาดการณ์ไว้ อย่าลืมที่จะมองหาบทความเกี่ยวการเป็นผู้นำใน สื่อสังคมออนไลน์ที่ได้รับความน่าเชื่อถือมากกว่าบทความทั่ว ๆ ไป คุณควรพิจารณาผลงานของนายจ้างปัจจุบันของคุณด้วยว่าพวกเขากำลังสร้างวัฒนธรรมที่มีการส่งเสริม ที่คุณต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการก้าวไปข้างหน้านั้นหรือไม่

2. ทักษะของคุณ 

การได้ลองทำแบบประเมินตนเองจะช่วยให้คุณเห็นความก้าวหน้าที่คุณทำมาในปีนี้ พิจารณาดูว่ามีอะไรที่คุณได้เรียนรู้ และคุณได้ใช้ทักษะใหม่ใดบ้างในช่วงเวลานี้ของปีที่แล้ว และใช้การค้นคว้าของคุณเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลเชิงลึกในความสามารถเหล่านั้นที่จะกลายมาเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในอนาคตในขณะเดียวกันคุณต้องไตร่ตรองว่าคุณจะต้องรู้อะไรบ้างเพื่อการทำงานในอนาคต เช่น การเพิ่มขึ้นของระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

3.  ดำเนินการเชิงรุก 

เครื่องมือ Career Checkup ไม่ใช่แค่การวิจัยและการค้นหาทางจิตวิญญาณ แท้จริงแล้ว เครื่องมือดังกล่าวมีการดำเนินการเชิงบวกที่คุณควรเข้าร่วม คือ 

3.1 ทำเรซูเม่ใหม่ – เพิ่มหน้าที่รับผิดชอบต่าง ความสำเร็จ รางวัล หรือการรับรองคุณภาพต่าง ๆ จากคอร์สการอบรม อันเป็นสิ่งที่ควรจะปรากฏอยู่บนเรซูเม่ ไม่ว่าคุณต้องการจะมองหางานใหม่หรือไม่

เคล็ดลับ: ใช้เครื่องหมาย Bullet หรือจุดแสดงหัวข้อย่อยลง ( • ) ใน resume เพื่อเน้นความสำเร็จของคุณ ความสำเร็จคือตัวอย่างของการที่คุณได้เพิ่มคุณค่า และเป็นตัวอย่างการเปรียบเทียบความรับผิดชอบที่คุณมี ใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสมในแต่ละหัวข้อ อธิบายการดำเนินการที่ครอบคลุมและให้ผลลัพธ์เชิงปริมาณที่คุณได้ทำ สิ่งนี้จะช่วยให้เรื่องราวของคุณเป็นที่จดจำและช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจคุณค่าที่คุณสามารถมอบให้กับหน้าที่ได้  

 

3.2 ตกแต่งโปรไฟล์บนสื่อสังคมออนไลน์ของคุณให้เรียบร้อย – สื่อสังคมออนไลน์คือหนึ่งในที่ ๆ นายจ้างจะเข้าไปเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณเมื่อต้องพิจารณาถึงตำแหน่งงานที่สมัครเข้ามา ความจริงแล้ว 90% ของบริษัทสรรหาพนักงานใช้ LinkedIn เป็นที่แรก ๆ ในการค้นหา ที่คุณต้องทำก็คืออัพเดตโปรไฟล์ของคุณในนั้น แม้ว่าคุณกำลังมองหางานอยู่หรือไม่ก็ตาม เพื่อให้มั่นใจว่าใครก็ตามที่เข้ามาเยี่ยมชมโปรไฟล์ของคุณจะได้รับภาพรวมของสิ่งที่คุณเสนอได้อย่างถูกต้อง

เคล็ดลับ: สรุปภาพรวมและรายละเอียดงานของคุณ รวมไปถึงองค์ประกอบต่าง ๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้เข้าชมโปรไฟล์และทำให้รีครูทเตอร์เข้าใจคุณได้ง่ายมากขึ้น ใส่ลิงก์ผลงานของคุณไม่ว่าจะเป็นรูปแบบวิดีโอหรือไฟล์เอกสารที่คุณสร้างไว้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่คุณประสบความสำเร็จ และขอคำแนะนำจากคนที่คุณเคยทำงานด้วย คุณยังสามารถเป็นส่วนหนึ่งในคอมมูนิตี้งโดยการเข้าร่วมกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับงาน ซึ่งคุณสามารถขอคำแนะนำและเป็นสังเกตเห็นได้จากการเข้าไปมีส่วนร่วมในการสนทนา   

 

3.3 มาคุยกัน – หาที่ปรึกษา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน หัวหน้าที่คุณสบายใจที่จะสอบถามเกี่ยวกับอาชีพการงานของคุณได้อย่างตรงไปตรงมา เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่ดีที่จะได้รับความเห็นที่จากมุมมองที่แตกต่าง

การถามคำถามที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณได้มุมมองที่ชัดเจนขึ้น อาจจะลองเริ่มต้นถามด้วยคำถามด้านล่างนี้

  • คุณคิดว่าอะไรคือทักษะด้านซอฟต์สกิลที่มีค่าที่สุดของผม/ฉัน
  • คำไหนที่คุณคิดว่าจะอธิบายรูปแบบการทำงานของผม/ฉันได้
  • คุณคิดว่าผม/ฉันเป็นผู้เชียวชาญในเรื่องใด
  • มีช่วงเวลาไหนที่คุณพอจะนึกออกได้ว่าผม/ฉันได้ทำอะไรให้คุณรู้สึกประทับใจ

เคล็ดลับ: ใช้คำตอบจากคำถามเหล่านี้เพื่อตรวจสอบสิ่งที่คุณรู้อยู่แล้วเกี่ยวกับคุณสมบัติและประสบการณ์ของคุณเองและเพิ่มข้อมูลเชิงลึกใหม่ ๆ ที่คุณได้รับในประวัติย่อและโปรไฟล์ LinkedIn ของคุณ   

 

3.4 เริ่มต้นสร้างเครือข่าย – ติดต่ออินฟลูอินเซอร์หรือคนที่คุณได้สร้างหรือช่วยเหลือตลอดทั้งปีและแจ้งให้พวกเขาทราบว่าคุณชอบที่จะทำงานร่วมกันหากพวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากคุณ การเป็นคนแรก ๆ ที่ผู้คนนึกถึงเป็นวิธีที่ดีในการค้นหาโอกาสใหม่ ๆ

เคล็ดลับ: ทำการบ้านก่อนเริ่มติดต่อผู้คนในรายชื่อผู้ติดต่อของคุณ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณรู้ว่าผู้ติดต่อของคุณทำอะไรอยู่ ณ ตอนนี้ และเพื่อหาข้อมูลเชิงลึกส่วนตัวต่าง ๆ ที่คุณสามารถเริ่มต้นบทสนทนาได้  

 

3.5 วางแผนสำหรับปีหน้า – แผนปฏิบัติการสำหรับปีหน้าช่วยให้คุณมองเห็นถึงสิ่งที่คุณต้องการบรรลุและจุดที่คุณต้องการไปอยู่ในปีถัดไป เป็นการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานที่คุณสามารถย้อนกลับไปดูได้ไม่ว่าคุณจะวางแผนเปลี่ยนอาชีพ เลื่อนตำแหน่ง หรือต้องการมองหาทักษะใหม่ ๆ 

เคล็ดลับ: กำหนดบทบาทที่คุณอยากจะทำ ทักษะที่คุณต้องการพัฒนา ประเภทของทีมที่คุณต้องการทำงานด้วยหรือแม้แต่ทีมที่คุณต้องเป็นผู้นำ และความสำเร็จจะเป็นอย่างไรสำหรับคุณ วิธีนี้จะช่วยให้คุณตกผลึกในสิ่งที่คุณต้องการได้เฉกเช่นเดียวกับการสร้างแผนที่ปฏิบัติตามได้จริง  

การทำตามขั้นตอนเหล่านี้จะทำให้คุณมีจุดมุ่งหมายที่จะทำให้ 12 เดือนข้างหน้าเป็นปีที่ดีที่สุดสำหรับอาชีพของคุณ ถึงเวลาคว้าความสำเร็จด้วยมือทั้งสองข้างแล้ว!  สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเทรนนิ่งภายในองค์กรที่ 022586930-35 และ [email protected]  หรือ LHH Thailand