อยู่ต่อหรือไปดี? เข้าใจนโยบายสมัครใจลาออกก่อนตัดสินใจ

Published on
Written by

ถ้าวันหนึ่งบริษัทประกาศนโยบาย “สมัครใจลาออก” คุณจะเลือกอยู่ต่อหรือก้าวออกไปสู่เส้นทางใหม่? นี่ไม่ใช่คำถามง่าย ๆ เพราะการตัดสินใจแต่ละครั้งอาจส่งผลยาวไกลทั้งต่อการงาน การเงิน และชีวิตส่วนตัว

สมัครใจลาออกคืออะไร แล้วทำไมหลายองค์กรถึงเลือกใช้วิธีนี้?

ในช่วงที่ธุรกิจเผชิญการเปลี่ยนแปลง หลายบริษัทต้องปรับโครงสร้างเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มความคล่องตัว การใช้มาตรการ “สมัครใจลาออก” มักถูกมองว่าเป็นทางออกที่นุ่มนวลกว่าการเลิกจ้างโดยตรง เพราะเปิดโอกาสให้พนักงานตัดสินใจเองว่าจะอยู่ต่อหรือออกไป พร้อมกับได้รับสิทธิประโยชน์หรือเงินชดเชยที่มากกว่าตามกฎหมายแรงงาน

สำหรับบริษัท นี่คือการบริหารจัดการจำนวนพนักงานแบบให้เกียรติและลดแรงกระทบ ขณะที่ในมุมของพนักงาน นี่อาจเป็นโอกาสที่จะได้เริ่มต้นใหม่ ได้เจอโอกาสใหม่ แต่ก็แฝงความกังวลใจไม่น้อยเพราะการก้าวออกไปจากงานที่ทำมานานไม่ใช่เรื่องง่ายเลย การตัดสินใจครั้งนี้จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะหมายถึงการเลือกเส้นทางชีวิตครั้งใหญ่

สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ

การตัดสินใจว่าจะอยู่ต่อหรือก้าวออกไป จำเป็นต้องมองให้รอบด้าน ลองถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้:

การเงินพร้อมไหม?

เงินชดเชยที่ได้รับมากกว่ากฎหมายแรงงานกำหนดจริง แต่จะเพียงพอหรือไม่ในการดูแลค่าใช้จ่ายรายเดือน ภาระหนี้สิน หรือแผนชีวิตช่วงเปลี่ยนผ่าน?

อนาคตการทำงานเป็นอย่างไร?

หากอยู่ต่อ คุณยังเห็นโอกาสในการเติบโตและความมั่นคงไหม? หรือเส้นทางอาชีพอาจเริ่มตัน?

ครอบครัวและชีวิตส่วนตัว?

การเปลี่ยนงานหรือการหยุดพักอาจส่งผลต่อคนรอบตัวมากกว่าที่คิด

พร้อมสำหรับก้าวใหม่หรือยัง?

มีทักษะ เครือข่าย และความมั่นใจเพียงพอสำหรับการหางานใหม่ หรือการเปลี่ยนเส้นทางอาชีพหรือยัง?

คำตอบของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญคือการตัดสินใจควรมาจากการชั่งน้ำหนัก “ทั้งปัจจุบันและอนาคต” อย่างรอบคอบ เพราะคำถามเหล่านี้จะช่วยให้เห็นภาพชัดขึ้นว่าเส้นทางไหน “ใช่” สำหรับตัวเองจริง ๆ

ถ้าเลือกก้าวออกก็ไม่จำเป็นต้องเดินลำพัง

หลายคนที่ตัดสินใจสมัครใจลาออกอาจเผชิญกับคำถามใหม่ทันทีว่า “แล้วจะไปต่อยังไง?” ความรู้สึกสับสน ว่างเปล่า หรือกังวล เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้จริง แต่การก้าวออกไปไม่ได้แปลว่าจะต้องเดินเพียงลำพัง และถ้าคุณเลือกก้าวออก สิ่งสำคัญคือการหาพาร์ทเนอร์ที่ช่วยประคองให้การเปลี่ยนผ่านไม่โดดเดี่ยว

นี่คือจุดที่บริการ Outplacement ของ LHH Thailand เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเติมเต็มและช่วยสร้างความมั่นใจในการเปลี่ยนผ่าน

Career Coaching:

ที่ปรึกษาจะช่วยให้คุณมองเห็นเส้นทางที่เหมาะกับตัวเองจริง ๆ ไม่ใช่เพียงแค่งานต่อไป แต่คืออาชีพที่สอดคล้องกับเป้าหมายชีวิต

Reskilling & Upskilling:

เพิ่มทักษะใหม่ ๆ ให้พร้อมรับกับตลาดงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น ดิจิทัล เทคโนโลยี และทักษะการบริหารจัดการ

Career Studio & Networking:

พื้นที่ในการเชื่อมโยงกับผู้เชี่ยวชาญและองค์กรที่กำลังมองหาคนที่ใช่ ทำให้การเริ่มต้นใหม่ไม่ใช่การเริ่มจากศูนย์

ทั้งหมดนี้ทำให้การลาออกไม่ใช่แค่ “จุดจบ” แต่เป็น “การเริ่มต้นใหม่” ที่มีคนคอยสนับสนุนอยู่ข้าง ๆ

มองไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ

สุดท้ายแล้ว การเลือกว่าจะอยู่ต่อหรือก้าวออกไป ไม่มีคำตอบใดที่ถูกหรือผิด มีเพียงคำตอบที่ “เหมาะสมที่สุด” สำหรับคุณในช่วงเวลานั้น สิ่งสำคัญคือคุณต้องไม่ปล่อยให้ตัวเองตัดสินใจบนความกลัวหรือความไม่ชัดเจน

ถ้าคุณเลือกอยู่ต่อ นี่อาจเป็นโอกาสในการพิสูจน์ตัวเองกับความท้าทายใหม่ ๆ ในองค์กรแต่ถ้าคุณเลือกก้าวออกไป นั่นก็อาจเป็นโอกาสที่จะได้เริ่มต้นเส้นทางที่ตรงกับใจคุณมากกว่า

ไม่ว่าคุณจะเลือกทางไหน จะอยู่หรือไปต่อ อย่าลืมว่าทุกการตัดสินใจคือก้าวสำคัญที่คุณมีสิทธิ์เลือกด้วยตัวเอง การมีข้อมูลครบถ้วน แผนที่ชัดเจน และการสนับสนุนที่ถูกต้อง จะทำให้ทุกก้าวมั่นใจขึ้นเสมอ และนี่คือสิ่งที่ LHH Thailand พร้อมอยู่เคียงข้างคุณในทุกการเปลี่ยนผ่านอาชีพ