ปลดล็อคศักยภาพในตัวคุณ ด้วยพลัง AI

Published on
Written by

การใช้ AI จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในสายอาชีพได้ยังไง และ AI จะเข้ามาช่วยให้เราได้ค้นหาศักยภาพที่เรามีอยู่จนต่อยอดไปถึงการพัฒนาทักษะที่เรายังไม่มีได้ยังไง

ในยุคปัจจุบัน การใช้เทคโนโลยี AI กำลังเป็นสิ่งจำเป็นในหลาย ๆ ด้าน องค์กรต่างๆเองก็พยายามปรับตัวในการใช้ AI เพื่อให้เกิดประโยชน์ให้มากยิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพ และลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ดังนั้นคนที่มีทักษะและความชำนาญด้าน AI ดูเหมือนจะได้เปรียบกว่าคนที่ไม่มีทักษะด้านนี้เลย

ดังนั้นเพื่อตอบสนองความต้องการในตลาดแรงงาน เราในฐานะที่เป็นบุคคลากรในองค์กรอยู่แล้ว หรือในฐานะที่กำลังมองหางานใหม่ เราจำเป็นที่จะต้องมุ่งพัฒนาตนเองให้มีทักษะการใช้ AI เพื่อไม่ให้เป็นภาระขององค์กร รวมทั้งสร้างทักษะใหม่ ๆ ให้ตัวเองและเพิ่มโอกาสในการเติบโตในสายอาชีพ และเป็นที่ต้องการในตลาดแรงงานอยู่เสมอ เราจะเห็นได้ว่าธุรกิจที่ต้องพึ่งพิงข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น อุตสาหกรรมการเงินและการตลาดดิจิทัล จำเป็นต้องใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่สำคัญเพื่อการตัดสินใจเชิงธุรกิจเพื่อลดความเสี่ยงและความเสียหายให้น้อยที่สุด

องค์กรหลาย ๆ แห่งที่นำ AI เข้ามาทำงานร่วมกับคนเห็นผลลัพธ์ที่ค่อนข้างชัดเจนว่าการดำเนินการมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ลดต้นทุนดำเนินการและเพิ่มความเร็วในการดำเนินงานอย่างเห็นได้ชัด เช่น ระบบการผลิตอัตโนมัติที่ช่วยลดระยะเวลาในการผลิตและเพิ่มความแม่นยำ ทำให้ผู้บริหารในปัจจุบันเห็นเล็งเห็นความสำคัญในการใช้ AI และพนักงานต้องเป็นผู้ชำนาญในการใช้ AI ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การดำเนินธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน ในบางองค์กรผู้บริหารถึงกับกำหนดวิสัยทัศน์ว่าบุคคลากรในองค์กรต้องได้รับโอกาสฝึกฝนใช้ AI ในการทำงาน และวางนโยบายใหม่ว่าบุคคลากรที่จะรับเข้ามาใหม่ควรต้องมีความเข้าใจและสามารถในการใช้ AI ในการทำงานได้เลย

ทักษะการใช้ AI จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดแรงงาน นอกเหนือจากความรู้และความชำนาญที่สะสมมาจากประสบการณ์ในสายงานตรงที่สามารถโอนถ่ายได้ และเป็นการเพิ่มโอกาสให้บุคคลากรสามารถเติบโตก้าวหน้าในลักษณะงานตำแหน่งที่สูงกว่า หรือแม้แต่การเปลี่ยนงานไปในตำแหน่งงานอื่นในอุตสาหกรรมเดิมหรือใกล้เคียงก็จะได้เปรียบกว่าคนที่ไม่มีทักษะ AI เลย

เราอาจจะได้เห็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในการใช้ AI เพื่อพัฒนาตนเอง เช่น นักการตลาดดิจิทัลที่ใช้ AI ในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้เขาสามารถวางแผนและกำหนดกลยุทธ์การตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ยอดขายเติบโตได้ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้บริษัทรักษาความสามารถการแข่งขันในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้

สำหรับคนที่ไม่มีความรู้เรื่อง AI มาก่อน ก็สามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ เช่น การเรียนคอร์สออนไลน์ หรือแพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่ใช้งานง่าย เพื่อให้เกิดความเข้าใจพื้นฐานก่อน แล้วค่อยพัฒนาต่อยอดสายงานตัวเองในเชิงลึกจนถึงสามารถนำความชำนาญนั้นไปช่วยแก้ไขปัญหาที่มีความซับซ้อนได้ กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญช่วยพัฒนาโปรเจกต์ใหม่ ๆ เทคนิคใหม่ ๆ และปรับปรุงกระบวนการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพทั้งตัวบุคคลากร กระบวนการดำเนินการ และการสื่อสารภายในทีม แผนกจนถึงในระดับองค์กร

AI จะช่วยให้เราสามารถพัฒนาตนเอง เรียนรู้ได้เร็วขึ้น สามารถใช้วิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็ง ฝึกทักษะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาษา การเขียน การพูด หรือแม้กระทั่งการเขียนโค้ด ช่วยตั้งเป้าหมายและติดตามความก้าวหน้า ออกแบบแผนพัฒนาตัวเองไม่ว่าจะเป็นรายสัปดาห์หรือรายเดือน เตือนความคืบหน้า หรือช่วยปรับเป้าหมายให้สอดคล้องกับพฤติกรรมจริง จัดสรรการบริหารเวลาและโฟกัสได้ดียิ่งขึ้น ยังช่วยพัฒนาด้านจิตใจและอารมณ์อีกด้วย เราสามารถเรียนรู้จากแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้ แต่เราควรตั้งจุดประสงค์ในการพัฒนาตนเองก่อน เราจึงจะเลือกแพลตฟอร์มได้อย่างเหมาะสม กระบวนการที่ช่วยให้การสร้างความชำนาญและเพิ่มทักษะ AI ไม่สลับซับซ้อนแต่อย่างใด

เพราะ AI ช่วยให้เราสามารถ:

1.ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน:

AI สามารถช่วยกำหนด ระบุและตั้งเป้าหมายการพัฒนาตนเองที่เฉพาะเจาะจงและเป็นจริงได้ ทำให้เราเห็นเป้าหมายที่ต้องการบรรลุได้อย่างชัดเจน

2.วิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคล:

AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรม วิธีการทำงาน และกิจกรรมประจำวันเพื่อเข้าใจแนวโน้มส่วนบุคคลและการพัฒนาในแต่ละด้าน

3.ใช้แพลตฟอร์ม AI สำหรับการศึกษา:

นำมาใช้ในการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล ช่วยสร้างหลักสูตรการศึกษาที่ปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของผู้เรียน สามารถแนะนำคอร์สหรือหนังสือที่เหมาะกับระดับและเป้าหมายของเรา

4.ฝึกสอนผ่าน AI:

AI สามารถให้การฝึกสอนส่วนบุคคลในทักษะเฉพาะเช่น การสื่อสาร การบริหารเวลา และการคิดเชิงวิพากษ์

5.ติดตามความก้าวหน้า:

เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ตามความจำเป็น เช่น การวิเคราะห์ความสำเร็จหรือความล้มเหลวในเป้าหมายที่ตั้งไว้

ตัวอย่างของ AI แพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่ช่วยในการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง

1.Rocky.ai:

แพลตฟอร์มนี้เจาะจงในการให้การฝึกสอนและพัฒนาตนเอง โดยใช้ AI ในการวิเคราะห์และให้ข้อเสนอแนะแก่ผู้ใช้ในการบรรลุเป้าหมายชีวิตต่าง ๆ Rocky – Personal Development

2.Socrates:

ตัวช่วย AI ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยพัฒนาทักษะที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น การนำเสนอและการสื่อสาร Socrates: Your Personal AI Coach

3.Notion AI:

ใช้ในการจัดการงาน เรียนรู้ และวางแผนการพัฒนาตนเอง Notion AI

4.AI Fitness Apps:

เช่น Freel tics และ AI Personal Trainer ที่ช่วยในการพัฒนาทักษะการออกกำลังกายและการฟิตร่างกายในกลยุทธ์ที่ปรับเปลี่ยนได้ AI Fitness

5.Human Coach AI:

ให้การเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของผู้ใช้ ซึ่งช่วยเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นตลอดชีวิต Human Coaching AI  หรือ แนว Mindfulness เช่น Headspace หรือ WYSA (AI Therapist)

6.ChatGPT:

ใช้เพื่อช่วยในการเรียนรู้และการฝึกสนทนา และสามารถทำให้การพัฒนาเป็นไปอย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น

7.AI Scheduling Tools:

เช่น Motion, Reclaim

นอกจากนั้น AI ช่วยวิเคราะห์แนวโน้มอาชีพและทักษะที่ตลาดต้องการ แนะนำสายงานที่เหมาะสมจากความสามารถและความสนใจ วางแผนการฝึกอบรมพัฒนาทักษะใหม่ ๆ Upskill และ Reskill ที่เป็นที่ต้องการในตลาดแรงงานได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการของตลาด วางเป้าหมายด้านอาชีพทั้งในระยะสั้นและยาว ช่วยกำหนดทิศทางและแนวทางในการทำงานไม่ว่าจะเป็นการวางแผนการทำงาน การติดตามและประเมินผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการสื่อสารภายในทีม

โดยมีขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนที่ 1: AI วิเคราะห์ความสามารถ ความสนใจ และประสบการณ์เดิม จาก

  • ข้อมูลเรซูเม่ / LinkedIn
  • แบบสอบถามเกี่ยวกับทักษะที่มีและสนใจ
  • พฤติกรรมการเรียนรู้/งานอดิเรก
  • การใช้ภาษาหรือบทสนทนา (เช่น ChatGPT วิเคราะห์จากบทสนทนากับคุณ)

เครื่องมือที่ใช้ได้:

  • Pymetrics: ใช้ AI วิเคราะห์บุคลิกและความถนัด
  • Eightfold.ai: วิเคราะห์โปรไฟล์และแมทช์กับตำแหน่งงานในอนาคต
  • ChatGPT + Resume Parser: ใช้ AI อ่านเรซูเม่แล้วแนะนำอาชีพที่เหมาะ

ขั้นตอนที่ 2: AI วิเคราะห์แนวโน้มอาชีพและทักษะที่ตลาดต้องการ

  • LinkedIn Economic Graph
  • World Economic Forum (WEF) – Future of Jobs Report
  • Google Cloud Talent Solution
  • Lightcast (เดิมชื่อ Burning Glass)

ขั้นตอนที่ 3: AI ช่วยวางแผน Upskill / Reskill

โดยแนะนำคอร์สเรียน (ฟรี/มีค่าใช้จ่าย) สร้างเส้นทางการเรียนรู้เป็นลำดับขั้น เตือนความก้าวหน้า และปรับแผนตามพฤติกรรมจริง

แพลตฟอร์มที่แนะนำ:

  • Coursera + AI Coach คอร์สจากมหาวิทยาลัยระดับโลก พร้อม AI ช่วยวางเส้นทาง
  • LinkedIn Learning มี AI แนะนำคอร์สตามสายงานที่คุณสนใจ
  • Google Career Certificates เรียนจบพร้อมใบรับรอง ใช้สมัครงานสาย IT, Data, UX
  • Skillsoft / Udemy Business สำหรับพนักงานองค์กรที่ต้องการ Reskill

ไม่ใช่แค่ในการทำงานเท่านั้นที่ AI มีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของเรา เราใช้ AI ทั้งที่โดยรู้หรือไม่รู้ตัว แต่ AI เข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันต่าง ๆ ในโทรศัพท์ แอปพลิเคชันที่ใช้ในการสั่งของออนไลน์ การควบคุมการเปิดปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านและรถยนต์ หรือแม้กระทั่งการใช้งาน AI ในการดูแลสุขภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้คือเทคโนโลยี AI และบทบาทของมันในชีวิตประจำวัน

บทบาทของ AI ในชีวิตประจำวันและการทำงาน ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินชีวิตและกระบวนการทำงานไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การสนับสนุนการตัดสินใจ หรือการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ นอกจากนี้ยังช่วยให้เราสามารถเชื่อมต่อและประสานงานกันได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ในยุคที่การปรับตัวคือกุญแจสำคัญสำหรับความสำเร็จในอนาคต AI จึงเป็นเครื่องมือที่ทุกคนควรหันมาปรับใช้เพื่อปลดล็อคศักยภาพในตัวของเราให้เต็มที่