Upskill กับการพัฒนา Learning Agility
ในโลกที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความสามารถในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ (Upskill) ไม่ใช่แค่ “ความต้องการ” แต่เป็น “ความจำเป็น” อย่างไรก็ตาม การ Upskill ที่ได้ผลจริงต้องควบคู่ไปกับการพัฒนา Learning Agility ซึ่งก็คือความสามารถในการปรับตัว เรียนรู้จากประสบการณ์และนำสิ่งที่เรียนรู้ไปปรับใช้ในบริบทใหม่อย่างรวดเร็ว
การมี Learning Agility ที่แข็งแกร่งช่วยให้ผู้นำสามารถสร้างอิทธิพลเชิงบวก (Leadership and Social Influence) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแรงจูงใจ การสื่อสาร หรือการนำทีมให้บรรลุเป้าหมาย
ทำไม Learning Agility ถึงเชื่อมโยงกับ Leadership and Social Influence?
1.ผู้นำที่มี Learning Agility สูงจะสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว:
การพัฒนาทักษะใหม่ๆ (Upskill) จะไม่เกิดผลหากไม่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.การ Upskill ที่มีคุณภาพต้องเชื่อมโยงกับการสร้างอิทธิพลในองค์กร:
เมื่อผู้นำเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ได้แล้ว การนำไปใช้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและแรงจูงใจให้กับทีมคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
3.Learning Agility ช่วยสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ในองค์กร:
เมื่อผู้นำสามารถพัฒนา Learning Agility ได้อย่างต่อเนื่อง จะช่วยส่งเสริมให้พนักงานทุกคนมีความพร้อมในการเรียนรู้และปรับตัวเช่นเดียวกัน
วิธีสร้าง Learning Agility ที่ยั่งยืนด้วย Upskill และ Leadership and Social Influence
1.การฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง (Continuous Upskilling)
การพัฒนาทักษะใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผู้นำสามารถปรับตัวได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะทักษะที่เกี่ยวข้องกับการ สื่อสาร การสร้างแรงจูงใจและการโค้ชชิ่ง (Coaching) ซึ่งเป็นพื้นฐานของ Leadership and Social Influence
ตัวอย่างทักษะที่ควร Upskill:
Digital Literacy: ความเข้าใจในเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ส่งผลต่อการทำงาน
Emotional Intelligence (EI): ความสามารถในการเข้าใจและจัดการอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น
Strategic Thinking: การคิดเชิงกลยุทธ์เพื่อพัฒนาองค์กรให้ก้าวหน้า
2.การสร้าง Learning Agility ผ่าน Feedback และ Reflection
การรับ Feedback อย่างเปิดกว้างและการสะท้อนตัวเอง (Reflection) คือหัวใจของ Learning Agility ผู้นำที่พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องจะมีความสามารถในการปรับปรุงและพัฒนาจุดแข็งของตนเองให้ดียิ่งขึ้น
วิธีการฝึกฝน
- ขอ Feedback จากทีม เพื่อนร่วมงาน หรือโค้ชอย่างสม่ำเสมอ
- บันทึกประสบการณ์ และสะท้อนสิ่งที่เรียนรู้จากความสำเร็จและความล้มเหลว
- ใช้เครื่องมืออย่าง MBTI และ Apollo Profile เพื่อวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนอย่างมีโครงสร้าง
3.การใช้ Leadership and Social Influence ในการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้
การมี Learning Agility ที่แข็งแกร่งไม่ได้หมายความว่าเพียงแค่พัฒนาตนเองเท่านั้น แต่ต้องใช้ความสามารถนี้เพื่อสร้างอิทธิพลเชิงบวก (Social Influence) ในทีมและองค์กรด้วย
เคล็ดลับในการสร้างอิทธิพล
- สร้างแรงบันดาลใจให้ทีมเห็นความสำคัญของการเรียนรู้ต่อเนื่อง
- พัฒนา Growth Mindset ในทีม โดยการเปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงความคิดเห็น และเรียนรู้จากความล้มเหลว
- เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องการปรับตัว ไม่กลัวการลองสิ่งใหม่ ๆ และแสดงให้ทีมเห็นว่าการเรียนรู้คือการเดินหน้าสู่ความสำเร็จ
การพัฒนา Learning Agility ที่ยั่งยืน คือการเดินทางที่ไม่สิ้นสุด
การพัฒนา Learning Agility ไม่ใช่เรื่องที่ทำสำเร็จได้ภายในวันเดียว แต่คือกระบวนการที่ต้องได้รับการฝึกฝน ปรับปรุง และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การสร้างความสามารถในการ Upskill ควบคู่ไปกับการใช้ Leadership and Social Influence อย่างชาญฉลาด จะช่วยให้ผู้นำสามารถปรับตัวได้อย่างยั่งยืน และนำทีมก้าวสู่ความสำเร็จในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
LHH พร้อมช่วยองค์กรของคุณออกแบบโปรแกรมพัฒนาผู้นำที่มี Learning Agility อย่างต่อเนื่อง เพราะผู้นำที่ดี คือผู้นำที่เรียนรู้ตลอดชีวิต