สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานเชิงบวก: กุญแจสำคัญในการรักษาคนให้อยู่กับองค์กร

Published on
Written by

แนวทางที่องค์กรสามารถกำหนดและปลูกฝังวัฒนธรรมการทำงานที่ยึดมั่นใน “คุณค่าที่ชัดเจน” เพื่อสร้างทีมที่แข็งแกร่งและได้เปรียบในการแข่งขันในโลกการทำงานที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

HR ในยุคปัจจุบันนั้นกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อเทียบกับเมื่อ 10 หรือ 20 ปีก่อน เมื่อก่อนหน้าที่หลักของ HR มักจะเน้นเรื่องการบริหารบุคลากร การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และงานด้านธุรการเป็นหลัก แต่ปัจจุบัน HR กลายเป็นพลังสำคัญที่ช่วยวางกลยุทธ์ให้กับองค์กร เห็นได้จากตำแหน่งใหม่ ๆ อย่างเช่น Chief People and Culture Officer เพื่อให้สอดคล้องกับบทบาทและความรับผิดชอบที่เปลี่ยนไป องค์กรยุคใหม่จึงไม่ได้มอง HR แค่เป็นฝ่ายสนับสนุน แต่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึง “การเปลี่ยนผ่านของบทบาท HR” อย่างแท้จริง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าองค์กรให้ความสำคัญกับ “คน” ในฐานะทรัพยากรที่มีค่าสูงสุดมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา

“ทำไมถึงเกิดการเปลี่ยนแปลงนี้?

เพราะความสำเร็จขององค์กรทุกวันนี้ ขึ้นอยู่กับ “วัฒนธรรมการทำงาน” มากกว่าที่เคยเป็นมา ไม่ใช่แค่จัดการคนให้ทำงานได้ แต่ต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี ที่ช่วยให้คนในทีมรู้สึกอยากอยู่และเติบโตไปด้วยกัน พนักงานยุคใหม่มีความคาดหวังสูงกว่าที่เคย พวกเขาไม่ได้มองหางานเพียงเพื่อรายได้ แต่ต้องการสถานที่ทำงานที่สอดคล้องกับค่านิยมส่วนตัวของตนเอง องค์กรที่ต้องการดึงดูดบุคลากรที่มีศักยภาพจึงเริ่มตระหนักว่า “วัฒนธรรมองค์กรเชิงบวก” คือแรงดึงดูดที่ทรงพลังในการรักษาและดึงคนเก่งเข้ามา นอกจากนี้ องค์กรที่มีวัฒนธรรมที่เข้มแข็งและมีเป้าหมายที่ชัดเจน ยังมีแนวโน้มที่จะได้รับผลลัพธ์เชิงบวกมากกว่า ทั้งในแง่ของความผูกพันของพนักงาน นวัตกรรม และผลประกอบการทางธุรกิจ

สร้างวัฒนธรรมให้องค์กรมีคุณค่าและชัดเจน

วัฒนธรรมองค์กรกำลังกลายเป็นตัวพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบที่ทำให้องค์กรแตกต่างจากตลาดการแข่งขัน เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้มันเกิดขึ้นเองแบบโดยบังเอิญหรือไม่มีทิศทาง องค์กรที่มีวิสัยทัศน์จึงต้องหันมาให้ความสำคัญกับการกำหนดและออกแบบวัฒนธรรมการทำงานอย่างตั้งใจ

โดยมีแนวทางสำคัญดังนี้

1.กำหนดคุณค่าหลักขององค์กร:

องค์กรของคุณให้ความสำคัญกับเรื่องอะไร? เริ่มต้นด้วยการระบุค่านิยมหลัก 3–5 ข้อ ที่จะเป็นรากฐานสำคัญของวัฒนธรรมองค์กรที่คุณต้องการสร้าง ไม่ว่าจะเป็น ความซื่อสัตย์, นวัตกรรม, ความรับผิดชอบ, การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางหรือคุณค่าอื่นใดที่สำคัญต่อองค์กรของคุณ ที่สำคัญคือ ต้องนิยามความหมายของแต่ละคุณค่าในทางปฏิบัติอย่างชัดเจน เช่น “ความซื่อสัตย์” สำหรับพนักงาน ผู้นำ และลูกค้าของคุณหมายถึงอะไร? พฤติกรรมที่สะท้อนคุณค่านี้ควรเป็นอย่างไร?

2.เชื่อมโยงคุณค่าให้เข้ากับทัศนคติและพฤติกรรม:

เมื่อองค์กรกำหนดคุณค่าหลักแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการเชื่อมโยงคุณค่าเหล่านั้นเข้ากับ “วิธีคิด” และ “พฤติกรรมที่สามารถสังเกตได้” ที่สอดคล้องและสนับสนุนคุณค่าเหล่านั้น เช่น ถ้าเราให้ความสำคัญกับ “นวัตกรรม” พนักงานควรกล้าคิดนอกกรอบ กล้าลองผิดลองถูก และมีใจเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้นำในองค์กรควรเป็นแบบอย่างที่ชัดเจนของคุณค่าดังกล่าว ผ่านพฤติกรรมและการตัดสินใจที่แสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมที่ต้องการสร้าง

3.แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของผู้นำ:

ผู้นำมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดวัฒนธรรมขององค์กร ทุกระดับของผู้บริหาร ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการหรือผู้บริหารระดับสูง ต้อง “ทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง” ในเรื่องของค่านิยมองค์กร นั่นหมายความว่า ทุกการตัดสินใจ การสื่อสาร และการมีปฏิสัมพันธ์ ต้องสะท้อนถึงค่านิยมที่องค์กรยึดถืออย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่คำพูดหรือคำประกาศ องค์กรควรมีการพัฒนาและฝึกอบรมผู้นำให้สามารถแสดงพฤติกรรมที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมที่ต้องการปลูกฝัง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กรให้เกิดผลอย่างยั่งยืน

4.ปรับระบบและกระบวนการให้สอดคล้องกับค่านิยม:

หากองค์กรต้องการปลูกฝังค่านิยมให้เป็นรูปธรรม ระบบและกระบวนการบริหารงานบุคคล ต้องสนับสนุนและสะท้อนค่านิยมเหล่านั้นอย่างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น หาก “การทำงานร่วมกัน” เป็นหนึ่งในค่านิยมหลัก การประเมินผลการปฏิบัติงานควรพิจารณาเรื่องการทำงานเป็นทีมเป็นองค์ประกอบสำคัญ นอกจากนี้ ระบบค่าตอบแทนหรือรางวัลอาจพิจารณาจากความคิดเห็นจากเพื่อนร่วมงาน เมื่อค่านิยมถูกฝังอยู่ในระบบต่าง ๆ ขององค์กรอย่างเป็นระบบ จะช่วยเสริมสร้างวัฒนธรรมที่ยั่งยืน และทำให้พนักงานเข้าใจว่า “สิ่งที่องค์กรให้คุณค่า” คืออะไร

องค์กรที่มีวัฒนธรรมองค์กรชัดเจน โดยมีรากฐานจากค่านิยมและคุณค่า มักมีอัตราการเติบโตของรายได้สูงกว่า เกิดนวัตกรรมมากกว่า และสามารถรักษาพนักงานไว้ได้นานกว่าองค์กรทั่วไป ถ้าอยากให้วัฒนธรรมองค์กรกลายเป็น “จุดแข็ง” ที่ทำให้องค์กรต่างจากที่อื่น ต้องเริ่มจากการกำหนดค่านิยมให้ชัด ทำให้ทุกคนเข้าใจ และใช้มันจริง ๆ ในทุกระดับ ตั้งแต่ผู้บริหารจนถึงทีมงาน รวมถึงมีวิธีดูแลและรักษาพนักงานดี ๆ ไปพร้อมกัน