AI Leadership และ Learning Agility: ผสานพลังเพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จ

Published on
Written by

เมื่อ AI Leadership และ Learning Agility ต้องทำงานร่วมกัน

ในโลกที่ AI และเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาธุรกิจ การพัฒนาผู้นำที่สามารถใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (AI Leadership) และการมีความสามารถในการปรับตัว เรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง (Learning Agility) ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้องค์กรก้าวไปข้างหน้า

แต่คำถามคือ  สองปัจจัยนี้เกี่ยวข้องกันอย่างไร? และทำไมเราถึงต้องพัฒนาให้เกิดขึ้นพร้อมกัน?

AI Leadership คืออะไร?

AI Leadership หมายถึง ความสามารถของผู้นำในการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเครื่องมือดิจิทัลอย่างมีกลยุทธ์ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้ไปข้างหน้า เพราะผู้นำที่มี AI Leadership ไม่ได้เพียงแค่เข้าใจเทคโนโลยี แต่สามารถใช้ AI ในการตัดสินใจ แก้ปัญหาและสร้างโอกาสใหม่ๆ ได้อย่างชาญฉลาด

ทักษะสำคัญของ AI Leadership

  • ความสามารถในการใช้ข้อมูล (Data Literacy) เพื่อการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ
  • ความเข้าใจเชิงกลยุทธ์ในการใช้ AI เพื่อพัฒนาองค์กร
  • การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการพัฒนาบุคลากร

Learning Agility คืออะไร?

Learning Agility คือ ความสามารถในการเรียนรู้ ปรับตัว และนำสิ่งที่เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ผู้นำที่มี Learning Agility จะสามารถปรับตัวได้ดีเมื่อเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง และใช้ประสบการณ์ที่ได้รับมาเป็นบทเรียนในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง

ทักษะสำคัญของ Learning Agility

  • ความสามารถในการปรับตัว (Adaptability)
  • การรับฟัง Feedback และใช้ในการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ
  • การคิดอย่างสร้างสรรค์ (Creativity) ในการแก้ปัญหา
  • การประยุกต์ใช้ความรู้ใหม่อย่างรวดเร็ว

ความสัมพันธ์ระหว่าง AI Leadership และ Learning Agility

แม้ว่า AI Leadership และ Learning Agility จะดูเป็นทักษะที่แตกต่างกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว สองสิ่งนี้มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด และการพัฒนาควบคู่กันจะช่วยให้องค์กรก้าวหน้าได้อย่างยั่งยืน

AI Leadership และ Learning Agility สำคัญอย่างไร

1. การใช้ AI เพื่อพัฒนา Learning Agility

ผู้นำที่สามารถใช้ AI ในการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล จะมีความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว

ยกตัวอย่างเช่น การใช้โปรแกรมโค้ชชิ่งที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อช่วยพัฒนาทักษะการเป็นผู้นำและการเรียนรู้จาก Feedback ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. Learning Agility เพื่อพัฒนา AI Leadership

ผู้นำที่มี Learning Agility สูง จะสามารถเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วและสามารถนำ AI ไปใช้ในการตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม

การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องคือคุณสมบัติสำคัญของผู้นำที่ต้องการใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพ

3. การสร้างอิทธิพลเชิงบวก (Leadership and Social Influence)

ผู้นำที่สามารถผสมผสาน Learning Agility และ AI Leadership ได้อย่างลงตัว จะสามารถสร้างอิทธิพลเชิงบวกต่อทีมและองค์กร

ทำให้การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในองค์กรเป็นไปอย่างราบรื่น และได้รับการยอมรับจากพนักงานทุกระดับ

วิธีการพัฒนา AI Leadership และ Learning Agility ควบคู่กัน

1. การฝึกฝนและพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง (Upskill & Reskill)

  • เรียนรู้การใช้เครื่องมือ AI ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน เช่น Data Analytics, Machine Learning
  • ฝึกฝนทักษะด้าน Emotional Intelligence และ Communication เพื่อสร้างอิทธิพลเชิงบวกในทีม

2. การใช้ Feedback และ Reflection เพื่อพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

  • ใช้เครื่องมืออย่าง MBTI และ Apollo Profile เพื่อวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของผู้นำ
  • รับ Feedback อย่างเปิดกว้าง และใช้ในการปรับปรุงตนเองอย่างสม่ำเสมอ

3. การสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ในองค์กร (Learning Culture)

  • สนับสนุนการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
  • ส่งเสริมการสร้างความคิดสร้างสรรค์และการเรียนรู้จากความล้มเหลว

ผู้นำในยุคใหม่ต้องพัฒนาได้ทั้ง AI Leadership และ Learning Agility

การพัฒนา AI Leadership และ Learning Agility ให้ควบคู่กันคือ สูตรสำเร็จสำหรับการพัฒนาผู้นำในยุคใหม่ เพราะการใช้ AI เพียงอย่างเดียวจะไม่มีประสิทธิภาพหากผู้นำไม่มีความสามารถในการปรับตัวและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ องค์กรที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืน จำเป็นต้องลงทุนในการพัฒนาผู้นำที่พร้อมทั้งสองด้านนี้

LHH พร้อมช่วยคุณออกแบบโปรแกรมพัฒนาผู้นำที่ใช้ทั้ง AI และ Learning Agility เพื่อสร้างอิทธิพลเชิงบวกในองค์กรของคุณ เพราะการพัฒนาองค์กรให้ก้าวหน้า ต้องเริ่มจากการพัฒนาผู้นำที่มีความสามารถอย่างแท้จริง